คำถาม เอชไอวี เอดส์ PrEP เป๊ป
คําถามที่พบบ่อย เกียวกับ เอชไอวี เอดส์
เอชไอวี-เอดส์
การกอดหรือจูบ ติดเอชไอวีได้หรือไม่
ไม่ได้ เอชไอวีไม่สามารถติดโดยการกอดและการจูบได้ เพราะการกอดหรือจูบไม่สามารถทำให้สารคัดหลั่งจากร่างกายของผู้ติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายของผู้ติดเชื้อได้
Oral sex ออรัลเซ็ก การอม การโมก เสี่ยงต่อการติดเอชไอวี หรือเอดส์หรือไหม
ไม่ติด หากผู้กระทำ(คนโมก คนอม) ไม่มีแผลในช่องปากหรือลำคอ แต่ว่ามีความเสี่ยงสูงเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น หนองใน ซิฟิลิส เริมได้
Window period วินโดว์พรีเดีย คืออะไร แนะนับอย่างไง
คือช่วงเวลาที่ยังอาจตรวจไม่พบการติดเชื้อ คือ โดยทั่วไป การตรวจเลือดไม่ได้ใช้วิธีการตรวจหาเชื้อเอชไอวีโดยตรง แต่เป็นการตรวจหาสารภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้น หรือ “แอนติบอดี้” ถ้าเราได้รับเชื้อเอชไอวีจริง ร่างกายจะค่อยๆ สร้างสารชนิดนี้ออกมาเพื่อต่อต้านหรือกำจัดเชื้อเอชไอวี
เพร็พ PrEP คือ?
PrEP เป็นชื่อย่อของ PreExposure Prophylaxis คือการให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อเอชไอวี ก่อนมีการสัมผัส โดยการรับประทานยาวันละหนึ่งเม็ดทุกวัน ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ และใช้ร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
วิธีการตรวจเลือดหาเชื้อ HIV มีกี่วิธิ
การตรวจ ในประเทศไทย ปัจจุบันมี 3 วิธี
2.NAT เป็นบริการเสริมที่ใช้ตรวจร่วมกับการตรวจ Antibody โดยตรวจหาสายพันธุกรรมของเชื้อ HIV สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยง 5 วันขึ้นไป
3.PCR เป็นการวิธีตรวจหาสารพันธุกรรมในตัวเชื้อเอชไอวี สามารตรวจได้หลังมีความเสี่ยงตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป
ใครบ้างที่ควรตรวจเลือดดูการติดเชื้อเอชไอวี
-
ทุกคนที่มีหรือเคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ทั้งเพศสัมพันธ์ระหว่างชาย-ชาย หญิง-หญิง หรือชาย-หญิง -
ผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ -
ผู้ที่ มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือ มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น -
ผู้ที่เคยตรวจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ -
ผู้ที่ฉีดยาเสพติดด้วยการฉีดยาเข้าเส้น
สรุป HIV ใช่เอดส์ไหม?
"ไม่ใช่" ผู้มีเชื้อเอชไอวีกับผู้ป่วยเอดส์แตกต่างกัน ผู้ป่วยเอดส์จะต้องมีอาการแสดงของโรคเอดส์และได้รับการวินิจฉัยจากหมอแล้ว สำหรับผู้มีเชื้อ บางคนอาจกินยาต้านไวรัส บางคนอาจไม่ต้องกินเพราะ CD4 ยังสูงอยู่
กินน้ำอสุจิติดเอดส์ไหม?
การกลืนน้ำอสุจิ ไม่เสี่ยงแน่นอน เพราะในกระเพาะอาหารเรานั้นมีกรดที่สามารถฆ่าเชื้อ HIV ได้ แต่ต้องมั่นใจว่าในช่องปากเราไม่มีแผลและสะอาด ถ้าหากไม่แน่ใจควรไปตรวจที่โรงพยาบาล เพื่อปกป้องได้ทันทวงที
PEP คืออะไร ?
PEP ย่อมาจาก Post -Exposure Prophylaxis คือ ยาต้านไวรัส ที่จ่ายให้ทันทีที่คนไข้เพิ่งไปสัมผัสเชื้อเอชไอวีมา เหตุผลที่ต้องทานยานี้ให้เร็วที่สุด ก็เพื่อให้ยาเข้าไปต่อสู้กับเชื้อไวรัส และให้คนไข้สร้างระบบภูมิคุ้มกันที่จะสามารถป้องกัน เอชไอวี ก่อนที่เชื้อจะแพร่ในคนนั้นๆ ดังนั้น การทานยา เป๊ป จึงจำเป็นต้องทานให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ภายในเวลา 72 ชั่วโมง หลังจากสัมผัสเชื้อมา
ถ้าเลือดบวกทำอย่างไร?
สามารถจัดการได้ โดย - รีบพบแพทย์ รู้เร็ว รักษาเร็ว สุขภาพแข็งแรง ชีวิตยืนยาว การรีบพบแพทย์จะทำให้เราเข้าถึงการดูแลรักษาได้เร็วขึ้นและเข้าถึงยาต้านไวรัสได้เร็วขึ้น - หากลุ่มช่วยเหลือด้านจิตใจ ทุกวันนี้มีหน่วยงานและกลุ่มอาสาสมัครที่ช่วยเหลือด้านจิตสังคมมากมาย อีกทั้งยังให้คำแนะนำเรื่องการเข้าถึงยาต้านไวรัส - ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องเอชไอวีและการอยู่ร่วมกับเชื้อ การได้ทราบข้อมูลที่มีประโยชน์จะช่วยคลายกังวลได้มาก หากเพื่อนไม่มีเน็ตก็สามารถสอบถามไปยังองค์กรที่ช่วยเหลือ (โทร. 1663) ได้ - ดูแลสุขภาพตัวเอง ไม่รับเชื้อเพิ่ม ไม่แพร่เชื้อ อย่าลืมว่าผู้มีเชื้อคนอื่นอาจมีเชื้อดื้อยา หากรับเชื้อมาอาจทำให้เราดื้อยาต้านไวรัส หรือเราอาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก็ได้ ดังนั้นต้องใช้ถุงยางทุกครั้งกับทุกคน
ใช้มีดโกน อันเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ HIV จะเสี่ยงไหม?
ไม่เสี่ยง แต่ถ้ามีดโกนมีเลือดติดอยู่เต็มมีดแล้วนำมาใช้ต่อทันทีและเกิดบาดมีแผลเลือดออกก็อาจมีโอกาสเสี่ยง
ผลการตรวจหาเชื้อ HIV = Non Reactive คืออะไร?
คือ..ผลปกติไม่ติดเชื้อ
ควรตรวจเลือดบ่อยแค่ไหน?
ตรวจเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือถ้าไม่มั่นใจในคู่ของคุณก็ควรตรวจทันที หรือตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง
Window period คืออะไร
ระยะฟักตัวของเชื้อเอชไอวี แต่ยังตรวจไม่พบ ทำให้ช่ไม่สามารถตรวจเจอเชื้อได้ จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 1 เดือน
ตรวจแบบ Anti-HIV กับ NAT แบบไหนแม่นยำกว่ากัน ?
ทั้งสองแบบความแม่นยำไม่แตกต่างกันมาก จะต่างกันตรงที่ Anti-HIV สามารถตรวจได้หลังเสี่ยง 14 วันขึ้นไป ส่วน NAT สามารถตรวจได้หลังเสี่ยง 7 วันขึ้นไป
ยาต้านไวรัสเอชไอวีมีกี่ชนิด ?
ผลข้างเคียงของยาต้านเอชไอวี ?
เนื่องจากยาต้านไวรัสเอชไอวีถือเป็นยาที่ค่อนข้างแรง ทำให้บางรายที่รับไปทานอาจมีผลข้างเคียงในช่วงเริ่มทานได้ อาการทั่วไปที่เกิดขึ้นได้จะมีดังนี้
- อาการท้องเสีย
- วิงเวียนศรีษะ
- ปวดหัว
- คลื่นไส้
- รู้สึกอ่อนแรง
CD4 คืออะไร ?
CD4 บางครั้งถูกเรียกว่า T-cells หรือ T-helper cells คือเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่ควบคุมและต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ มีหน้าที่ในการสร้างสารภูมิคุ้มกันให้ร่างกายเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค แบคทีเรีย
CD4 เท่าไหร่ถึงเรียกว่าระดับน่าเป็นห่วง
CD4 ที่ระดับน้อยกว่า 200 ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อต่าง ๆ เรียกว่า โรคติดเชื้อฉวยโอกาสเนื่องจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และเข้าสู่สภาวะเอดส์ AIDS ได้ ซึ่งรุนแรงจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
เอชไอวีและเอดส์ แตกต่างกันอย่างไร ?
เอชไอวีและเอดส์ มีผู้คนมากมายที่ยังเข้าใจผิดและยังไม่ทราบว่าสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันอยู่ ไวรัสเอชไอวีเป็นเชื้อไวรัสที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายของคนเราแล้ว มันจะมุ่งไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว เซลล์ที่เป็นเป้าหมายหลักโดยตรงของไวรัสเอชไอวี คือ เม็ดเลือดขาวลิมโฟซัยท์ (Lymphocyte) ทีเซลล์ (T-cell) ชนิด ซีดี 4 (CD4) ซึ่งเม็ดเลือดขาวในร่างกายทำหน้าที่ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอม หรือเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายแล้วนำไปทำลาย เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวถูกทำลาย จึงทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อเอชไอวี มีภูมิคุ้มกันต่ำลง จนในที่สุดร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันเพียงพอในการป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคภายนอก
ถ้าติดซิฟิลิสแล้วจะมีอาการอย่างไร?
ไม่ใช่ทุกคนที่แสดงอาการของโรคซิฟิลิสทันที ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ความแข็งแรงและโอกาสเสี่ยงที่มีบ่อยหรือไม่ เพราะเมื่อคนเราได้รับเชื้อไปแล้ว อาจอยู่ในระยะแฝงตัวได้นานหลายปี ทางที่ดีเมื่อรู้ว่าเสี่ยงให้รีบตรวจและรีบรักษา
ดูแลตัวเองระหว่างการรักษาหูดหงอนไก่อย่างไร ?
ป้องกันตัวเองจากหนองในได้อย่างไร ?
วิธีการป้องกันการติดเชื้อหนองในเทียมที่ได้ผลดีที่สุดคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
สวมถุงยางอนามัยสองชั้นปลอดภัยกว่าสวมชั้นเดียวจริงหรือไม่ ?
ไม่จริง เพราะการสวมถุงยางอนามัยสองชั้น อาจจะทำให้เกิดการเสียดสีของถุงยางอนามัยแต่ละชั้นไปมา ขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์อยู่ กลายเป็นเพิ่มโอกาสทำให้ถุงยางอนามัยแตกหรือรั่วซึมได้ ซึ่งจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีได้มากขึ้น ดังนั้นควรสวมถุงยางอนามัยเพียงชั้นเดียวเท่านั้น
ค่าใช้จ่ายในการตรวจเอชไอวีราคาเท่าไหร่?
ราคาค่าบริการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในปัจจุบันนั้น สามารถเข้ารับการตรวจฟรีในโรงพยาบาลรัฐ หรือสถานพยาบาลภายใต้ระบบประกันสุขภาพ หรือโรงพยาบาลเอกชน ศูนย์สุขภาพ แล็ปตรวจโรค คลินิกพิเศษ รวมถึงคลีนิคนิรนามตามจังหวัดต่างๆโดยราคาในการตรวจจะเริ่มตั้งแต่ 200 - 1,500 บาท ทั้งนี้ควรสอบถามสถานพยาบาลนั้นๆเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องก่อนเข้ารับบริการ